Eagles กับความภูมิใจของ Glenn Frey
วันนี้( 7 May)ในปี 1977 เพลง Hotel Californiaขึ้นอันดับ 1ในอเมริกา เป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 4 ของ Eagles ผมจะเล่าเรื่องราวของเขาตอนทำอัลบั้ม Hotel California และ The Long Run รวมถึงเหตุการณ์ที่ Glenn Frey ระเบิดลง จนเป็นเหตุให้วง Eagles ร่วงหล่นจากฟ้า ก่อนที่จะคืนชีพกลับมาอีกครั้ง ในอัลบั้ม Hell Freeze Over เชิญติดตามอ่านได้เลยครับ
ในปี 2000 Glenn Frey เคยกล่าวไว้ว่า "แม้ว่าวง Eagles จะแยกทางกันไปตั้งแต่ปี 1980 แต่เพลงของพวกเราก็ยังขายได้เรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีพวกเรา และนับวันผมก็รู้สึกว่า ไม่ว่าผมจะไปไหน หรือทำอะไรในชีวิตที่เหลือของผม ทุกคนก็ยังมองผมเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Eagles เหมือนเดิม"
แน่นอนว่าในช่วงทศวรรษที่ 70s เพลงของ Eagles ได้รับความนิยมสูงสุด ผ่านทางสื่อวิทยุ ยอดขายเทป รวมถึงอัลบั้มที่ขายได้ทั่วโลกถึง 150 ล้านชุด เป็นเพราะเพลงของพวกเขาฟังสบาย งานเพลงพิถีพิถันในสไตล์คันทรีร็อคนั่นเอง ซึ่งนั่นเป็นความภาคภูมิใจของ Glenn Frey ทุกครั้งที่เขาพูดถึงวง Eagles
Glenn Frey ผู้นำตัวจริงเสียงจริง
Don Henley มือกลองและเพื่อนคู่หูของ Glenn Frey กล่าวถึง Glenn Frey ว่า “เขาเป็นผู้นำพาวงไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจเพลงอย่างแท้จริง ด้วยความรักในเสียงเพลง และการทำธุรกิจ เนื่องจาก Glenn Frey ชอบกีฬาเป็นอย่างมาก เขาจึงมีทักษะของการเป็นโค้ช ซึ่งเขานำมาใช้กับวง Eagles นั่นคือการดึงความสามารถและความถนัดของแต่ละคนออกมาใช้ได้ถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลานั่นเอง"
บทพิสูจน์ที่ออกมาให้เห็นชัดเจน ก็คือการทำอัลบั้ม Hotel California อัลบั้มชุดที่ 5 ของพวกเขาที่ออกมาในปี 1976 สามารถทำยอดขายได้ 17 ล้านแผ่นเฉพาะในอเมริกา และทั่วโลกอีก 32 ล้านชุด
Glenn Frey มีความตั้งใจอย่างมากในการสร้างผลงานสุดยอดชุดนี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ในปี 1992 ว่า "อัลบั้ม Hotel California เป็นอัลบั้มที่สุดยอด มันมาพร้อมกับการเรียนรู้ของพวกเราในการทำอัลบั้ม"
แต่นั่นหมายถึงว่า วงได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว และนั่นทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้ยากขึ้น ชะตากรรมของพวกเขาเหมือนถูกปิดนิ่งสนิทนับตั้งแต่นั้นมา....มันกลายเป็นแดนสนธยาสำหรับพวกเขาไปในทันที..จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปค้นหาคำตอบพร้อมกันเลย
เพลง Hotel California พูดถึงอะไร ?
เพลงไตเติ้ลแทร็ก Hotel California จากอัลบั้มชื่อเดียวกัน เป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของวง Eagles มีความยาวถึง 6.30 นาที และที่อดจะพูดถึงไม่ได้ก็คือ เพลงนี้มีท่อนโซโลที่ติดตรึงใจคนทั้งโลก แน่นอนว่า มือกีต้าร์หลายๆท่านยกให้ท่อนโซโล Hotel California เป็นหนึ่งในท่อนโซโลที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล
มาพูดถึงความหมายของเพลงกันบ้าง เพลงจะพูดถึงการไปเยือนโรงแรมหรูแห่งหนึ่งของหนุ่มเจ้าสำราญ ซึ่งใช้ชีวิตเหมือนนักดนตรีในยุคนั้น และก้าวข้ามไปเจอด้านมืดของโรงแรม แต่อย่างไรก็ตาม ความหมายของเพลงก็ถูกตีความไปต่างๆนาๆ บ้างก็บอกว่าเกี่ยวข้องกับการเสพเฮโรอีน บ้างก็บอกว่า พูดถึงการกินเนื้อ หรือแม้แต่การบูชายันต์พวกเหล่าปีศาจ ซึ่งจากปกอัลบั้มด้านในจะปรากฏภาพผู้นำคริสตจักรซาตาน ความจริงคืออะไรนั้น ลองไปฟังจากคำบอกเล่าของ Glenn Frey ผู้แต่งเนื้อร้องเพลงนี้ร่วมกับ Don Henley
Glenn Frey เคยให้สัมภาษณ์ BBC เมื่อปี 2008 ว่า "ทุกคนอยากรู้ความหมายที่แท้จริงของเพลงนี้ แต่ความจริงแล้ว พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน" ความตั้งใจของ Glenn Frey และ Don Henley คืออยากแต่งเพลงที่สามารถตีความได้หลายแง่หลายมุม เหมือนกับเรื่องราวในแดนสนธยา(Twilight Zone) ยังไงยังงั้น
พวกเขามองเห็นภาพตัดต่อจากฉากหนึ่งไปยังอีกฉาก ฉากที่หนุ่มคนนั้นกำลังขับรถอยู่บนไฮเวย์ แล้วตัดมาเป็นฉากหน้าโรงแรม เห็นหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามา แล้วประตูเปิดออก และเจอคนแปลกหน้าอยู่ในนั้นมากมาย
Glenn Frey ยังเล่าให้ฟังอีกว่า "ลองสมมติว่าชายหนุ่มคนนี้เป็น The Magus ทุกที่ที่เขาเดินผ่านประตูนั้นไป เขาจะเจอเรื่องราวเดียวกันซ้ำๆ แต่จะเป็นรูปแบบใหม่ทุกครั้ง เราตั้งใจทำให้มันฟังดูแปลกและอยากลองดูว่าเราทำได้หรือไม่ และอย่างที่เห็น ทุกคนล้วนจินตนาการเพลงนี้ไปต่างๆนาๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ผมกับ Don Henley ทำสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้นั่นเอง"
การทำเพลง Hotel California ในสตูดิโอ
มาพูดถึงการแต่งเพลงทำเพลงนี้กันบ้าง ระหว่างที่ Don Henley กับ Glenn Frey เขียนเพลงนี้ Don Felder มือกีต้าร์ได้บันทึกเสียงกีต้าร์ 12 สายด้วยระบบ 4-trackในสตูดิโอที่บ้าน และเมื่อนำมาเปิดให้เพื่อนๆฟัง พวกเขารู้สึกถึงแนวดนตรีหลากหลายที่ผสมผสานกัน แม้แต่ชื่อเพลงตอนแรกก็ออกมาเป็นแนวเม็กซิกันเร็กเก้
การบันทึกเพลงครั้งแรกทำที่ลอสแองเจลิส ตอนนั้นคีย์เพลงยังไม่เข้ากับเสียงแหบพร่าของ Don Henley เสียงร้องที่เขาร้องออกมาจึงเป็นเสียงสูงคล้ายเสียง falsetto ที่Barry Gibb (Bee Gees)ใช้ร้องในยุค 70s
Don Felder จึงลดคีย์เพลงนี้ลง จาก Em มาเป็น Bm แม้จะไม่ค่อยชอบใจก็ตาม แต่คีย์นี้ทำให้ Don Henley ร้องเพลงนี้ได้สบายและสมบูรณ์แบบมากขึ้น การบันทึกเสียงในวันแรกก็จบอยู่แค่นั้น
หลังจากนั้นไม่นาน การบันทึกเสียงครั้งที่ 2 ก็ตามมา แต่ตอนนี้ไปบันทึกเสียงกันที่ไมอามี่ ครั้งนี้เน้นรายละเอียดดนตรี และเนื้อร้อง ส่วนการบันทึกในครั้งที่ 3 ที่เดิม พวกเขาบันทึกกันหลายเทค แล้วเลือกเอาส่วนที่คิดว่าดีที่สุดจากแต่ละเทค มาปะติดปะต่อกัน จนได้เวอร์ชั่นที่เราได้ฟังกันมาจนทุกวันนี้
โปรดิวเซอร์ Bill Szymczyk ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Sound on Sound ว่า "เมื่อมาถึงจุดหนึ่งในอาชีพการเป็นนักดนตรี พวกเขาเริ่มตามหาความสมบูรณ์แบบมากขึ้น พวกเขาเรียกผมว่า “โค้ช” ให้ผมสามารถแก้ไขงานของพวกเขาได้ เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด เช่นเสียงกลองที่ได้ อาจจะแทนที่ด้วยเสียงกลองอีกแบบ แม้จะฟังดูดีขึ้นเล็กน้อยก็ตาม แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากให้ผมทำ"
หลังจากทุกอย่างสมบูรณ์ ก็มาถึงช่วงท้ายเพลง เป็นหน้าที่ของ Don Felder กับ Joe Walsh มาช่วยปิดท้ายเสียงกีต้าร์โซโล ใช้เวลาบันทึกในส่วนนี้ถึง 2 วัน
ตอนแรก Don Felder ต้องการแต่งท่อนโซโลใหม่ แต่ Don Henley กับ Glenn Frey ไม่เห็นด้วย เพราะทั้งคู่เห็นว่าโซโลแบบเดิม (เดโม)ดีอยู่แล้ว Don Felder อ้างว่าเขาจำเดโมท่อนนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ได้เล่นนานแล้ว สุดท้ายเขาจึงโทรหาแม่บ้านที่มาลิบูให้ช่วยค้นหาเทปเดโม แล้วเปิดผ่านหูฟังโทรศัพท์มายังห้องสตูดิโอ แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยดี เพลงสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการทุกประการ
สู่ความนิยมสูงสุด
หลังจากที่มีการปล่อยซิงเกิ้ลเพลง Hotel California ออกมา (22 February) ปรากฏว่าได้รับความนิยมสูงสุด แม้เพลงจะมีความยาวถึง 6.30 นาที แต่ก็ได้รับการเปิดออกอากาศในUK ถึง 200 ครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว และยังมีศิลปินหลากหลายแนวเอาไปเล่นในแบบฉบับของตัวเองอีกหลายคน ในช่วงเวลานั้นใครๆก็พูดถึงแต่เพลง "Hotel California กับอัลบั้มยอดเยี่ยมชุดนี้..
และวันนี้ ( 7 May) ในปี 1977 เพลง Hotel California ก็ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาได้สำเร็จ เป็นเพลงอันดับ 1 ลำดับที่ 4 ของพวกเขา และยังคว้ารางวัลแกรมมี่สาขา "Record of the Year"ในปี 1978 สำหรับท่อนโซโลในเพลงนี้ถูกจัดให้เป็นท่อนโซโลยอดเยี่ยมตลอดกาล Top 100 อันดับที่ 8 ของนิตยสาร "Guitar Magazine" ซึ่งโหวตโดยสมาชิกของนิตยสาร
แต่จากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของเพลงและอัลบั้ม "Hotel California" กลับทำให้เส้นทางข้างหน้าของพวกเขาไม่ง่ายขึ้นมาทันที เริ่มปรากฏรอยร้าวบนผนังกำแพงโรงแรม 5 ดาวแห่งนี้ขึ้นเสียแล้ว..จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามอ่านต่อตอนจบนะครับ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน หรือชอบ ก็เพียงแค่กด"หัวใจ"ให้ก็พอแล้ว
อ่านต่อตอนจบ >>>> คลิก
วี welove / 7 May 20 (updated 22 Feb 2024)
แปลและนำมาเรียบเรียงจาก BBC และ UltimateClassicRock
ติดตามทางเพจ Facebook
ติดตามทาง Line
ติดตามทางเว็บไซต์ welovechannel.info
Comments